การศึกษาเป็นพื้นฐานของการพัฒนาในทุกๆ สังคม ทั้งทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยี การเมืองและวัฒนธรรม รัฐบาลส่วนใหญ่ตระหนักดีในข้อนี้และผลักดันให้การศึกษาเป็นส่วนสำคัญของนโยบาย
แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะทำได้ง่ายๆ ในเวลาอันรวดเร็ว ในความเป็นจริงอาจจะใช้เวลาหลายชั่วอายุคนที่จะยังให้นโยบายการศึกษาผลิดอกออกผลเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะก้าวผ่านระบบ ซึ่งเราจะไม่เห็นผลในทันที ทัศนคตินั้นจะค่อยๆ เปลี่ยนไปอย่างช้าๆ การใช้เทคโนโลยีนั้นสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ แต่คุณภาพของผู้สอนและวิธีการสอนก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
ผมเล็งเห็นสิ่งต่างๆ เหล่านี้ผ่านประสบการณ์ด้านการศึกษาของตัวผมเอง ผมเรียนโรงเรียนมัธยมของรัฐแถวๆ บ้าน ต้องขอบคุณอาจารย์ทุกท่าน ที่ผมได้รับการตอบรับให้เข้าเรียนต่อด้านกฎหมายในมหาวิทยาลัย ตอนนั้นผมไม่มีความรู้ด้านกฎหมายมากนัก แต่มีหนังสือเกี่ยวกับอาชีพต่างๆ ในห้องสมุดเล็กๆ ที่โรงเรียนเกี่ยวกับอาชีพทนายซึ่งอ่านดูแล้วน่าสนใจมากทีเดียว และผมก็คิดว่าผมจะลองสมัครเข้าเรียนดู ชีวิตในมหาวิทยาลัยของผมเป็นประสบการณ์ที่เยี่ยมยอดมาก สอนให้ผมมีความรู้ความสามารถ ที่จะตัดสินประเด็นต่างๆ ด้วยข้อเท็จจริงและไม่กลัวที่จะตั้งคำถาม ข้อโต้เถียงที่ไม่สมเหตุสมผลไม่สามารถพลิกมาเป็นข้อดีได้เพียงเพราะว่าคนที่พูดนั้นเป็นคนใหญ่คนโต หลังจากนั้น ผมได้ไปเรียนต่อในระดับปริญญาโทที่ต่างประเทศในทวีปยุโรป และนั่นก็เป็นประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป ผมชอบสังคมและการใช้ชีวิตที่นั่นมาก แต่ก็ผิดหวังอย่างมากกับการเรียนการสอน ผมจำได้ว่า ครั้งหนึ่งระหว่างที่อาจารย์บรรยายอยู่ในชั้นเรียน อาจารย์พูดว่า “ถ้าคุณอยากได้คะแนนสูงๆ ตอนทำข้อสอบ ให้จดสิ่งที่ผมพูด แล้วเอาไปตอบข้อสอบตามนั้น” นั้นไม่ใช่การเรียนรู้หรือพัฒนาการศึกษาอะไรเลย มันเป็นเพียงการทดสอบความจำ หรือถ้าจะพูดแรงๆ ก็คือความพยายามในการล้างสมอง
ในทำนองเดียวกัน ถ้าวิธีการเรียนการสอนสำคัญ วิชาที่สอนก็มีความสำคัญเช่นกัน มหาวิทยาลัยและวิทยาลัยจำเป็นต้องสอนวิชาต่างๆ ที่เกี่ยวกับความต้องการของสังคม ตัวอย่างอันหนึ่งได้แก่ การศึกษาระดับอาชีวะมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เพื่อให้นักเรียนอาชีวะมีทักษะที่จำเป็นในการทำงานและได้มีงานที่ดี ดังนั้นจึงควรมีการร่วมมือกันระหว่างภาคการศึกษากับภาคอุตสาหกรรมให้มากขึ้น ในสหราชอาณาจักร เราเห็นการทำงานร่วมกันระหว่างภาคเอกชนกับการศึกษา เช่น บริษัท โรลส์รอยซ์ มีความร่วมมือกับภาคการศึกษาตั้งแต่ระดับโรงเรียนไปจนถึงงานวิจัยระดับปริญญาเอก และศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เป็นต้น
สหราชอาณาจักรยังถูกมองว่าเป็นผู้นำโลกด้านการศึกษา และมีนักศึกษาต่างชาติจำนวนมากนิยมเดินทางมาศึกษาต่อ สหราชอาณาจักรก็เหมือนกันกับประเทศอื่นๆ ที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณ แต่ด้วยคุณภาพการศึกษา ประกอบกับประสบการณ์ในการใช้ชีวิตในสังคมที่มีความหลากหลาย มีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ และความสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่าว ทำให้มีนักเรียนต่างชาติเดินทางมาศึกษาต่อจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ นอกเหนือจากประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปแล้ว ประเทศไทยติดหนึ่งในสิบของประเทศที่มีนักเรียนเดินทางมาศึกษาต่อในสหราชอาณาจักรมากที่สุด ในปีที่ผ่านมามีนักเรียนไทยเดินทางมาศึกษาต่อถึง 8 พันคน
หากท่านสนใจข้อมูลเพิ่มเติม มีเว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ตมากมายที่มีประโยชน์ เช่น เว็บไซต์ UCAS เกี่ยวกับการสมัครเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย หรือท่านสามารถติดต่อ บริติช เคานซิล กรุงเทพฯ ได้ ในโอกาสนี้ผมขอต้อนรับคุณแอนดรูว์ กลาส ผู้อำนวยการคนใหม่ที่เริ่มงานในสัปดาห์นี้
สหราชอาณาจักรยินดีที่แบ่งปันประสบการณ์ของเราในด้านการศึกษากับประเทศไทย อาทิเช่น สถาบันบริติช เคานซิลมีโครงการเกี่ยวกับการสอนวิทยาศาสตร์ร่วมกับบริษัทบริติชแก๊ส โรงเรียนที่มีระบบการศึกษาแบบอังกฤษหลายๆ โรงมีสาขาในประเทศไทย ผมได้มีโอกาสไปร่วมพิธีจบการศึกษาและพบว่านักเรียนจากโรงเรียนระบบอังกฤษเหล่านั้นประสบความสำเร็จในการศึกษา และแน่นอนที่สุดภาษาอังกฤษยังมีความสำคัญในฐานะที่เป็นภาษาที่ใช้กันทั่วโลก สำหรับประเทศไทยนั้น ภาษาอังกฤษมีความสำคัญมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนกำลังจะมาถึง มีโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษหลายแห่งที่นี่ เรามีโครงการพาเยาวชนอังกฤษมาเป็นครูผู้ช่วยสอนภาษาอังกฤษในประเทศไทย และโครงการนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ในปีนี้ มีนักเรียนอังกฤษจำนวน 248 คนเดินทางมายังประเทศไทยเพื่อช่วยสอนภาษาอังกฤษใน 173 โรงเรียนทั่วประเทศ ผมยังมีรูปจากงานเลี้ยงอำลามาฝากทุกคนด้วยครับ และหวังจะได้ต้อนรับพวกเขาอีกในปีหน้านะครับ!